วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติสัญญาณเตือนภัยมะเร็ง


  ประจำเดือนปกติมีเดือนละครั้ง  แต่หากเดือนไหนมามากกว่าหนึ่ง  อีกทั้งยังมีเลือดออกมากผิดปกติหรือแม้แต่แค่กระปริกกระปรอยก็นั่งนอนใจไม่ได้  เพราะบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยร้ายอย่างมะเร็ง
                ประจำเดือน  หรือที่เรีกว่า เมนส์”  เป้นภาวะตามธรรมชาติที่เกิดจากการหลุดของผนังมดลุกที่ไม่ได้มีกี่ปฏิสนธิซึ่งร่างกายก็จะขับออกมาทุกเดือน  โดยทั่วไปเด็กหญิงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จะเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกอายุประมาณ 12 – 13 ปี  ปกติจะมาครั้งละไม่เกิน 7 วัน  ประจำเดือนจะมาเป็นประจำทุกรอบประมาณ 21 – 35 วัน  ก่อนจะเข้าสู้การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนประมาณอายุ 45 – 56 ปี
·         เลือดออกมากผิดปกติ
                  ตามปกติแล้วปรมาณของประจำเดือนที่ถุกขับออกมาในแตะเดือนนั้นจะไม่เท่ากัน  บางคนอาจจะมีประจำเดือนแค่ 3 วัน  วันแรกมาเล็กน้อย  วันที่สองมามาก  และวันที่สามก็มีจางๆ  แล้วหมดไป  หรือบางคนแจจะบอกว่าประจำเดือนมาที่ 5 – 6 วัน  กว่าที่จะจางและหมดไปก็ครบอาทิตย์นึงพอดี
                โดยทั่วไปในแต่ละวันประจำเดือนที่ถูกขับออกมาจะมีปริมาณอยู่ที่ 20 -80 ซีซี  หรือเฉลี่ยประมาณ 35 ซีซี  แต่ที่ดูเหมือนว่ามามาก  ก็เป็นเพราะว่าการขับออกมาของประจำเดือนจะเป้นลักษณะเหมือนน้ำหมด  ไม่ได้ไหลพรวดเดียวเหมือนที่เราเทน้ำ  แต่ประจำเดือนจะถูกขับออกมาทีละนิดอย่างสม่ำเสมอจนว่าจะหมดนั้นเอง
                แต่สำหรับบางรายที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ  มีเลือดออกจากช่องคลอดกระปริดประปรอย  หรือมากกว่าปกติก็สร้างกังวลใจให้คุรไม่น้อย  พาลคิดไปต่างๆ  นานกว่าจะเป้นโรคร้ายแรง
               อาการประจำเดือนมากมากปกติเกิดขึ้นไก้มาจากหลายสาเหตุ  อาจเกิดได้จากผลข้างเคียงของยาที่รับประทาน  การใช้ยาคุมกำเนิด  ความเครียด  หรือเกิดจากภาวะติดเชื้อ
อาการเลือดออกผิดปกติที่เกิดขึ้นจากมะเร็ง
                ถ้าผุ้หญิงมีอาการต่อไปนี้  นั้นคือสัญญาณอันตรายที่เป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจเกิดจากมะเร็ง
1.                มีเลือดออกจากช่องคลอดกระปริกระปรอย  ทุกวันหรือวันเว้นวัน
2.            มีรอบเดือนประจำเดือนเร็วกว่า 21 วัน  คือ  นับจากวันที่เป้นครั้งแรก  ถ้าหากมีประจำเดือนอีกครั้ง  แต่ไม่ครบรอบ 21 วัน  นั้นก้แสดงว่าเกิดความผิดปกติกับอวัยวะภายใน
3.             มีเลือดออกนอกรอบประจำเดือน  เช่น  รอบนี้เริ่มมาวันที่ 1 มกราคม  2551  มาทั้งหมด 4 วัน  รอบถัดไปเริ่มมาวันที่ 30 มกราคม 2551  มาทั้งหมด 4 วัน  แต่ในวันที่ 15 มกราคม 2551  มีเลือดออกมาอีก
4.              มีเลือดออกจากช่องท้องคลอดปริมาณมาก  มีลักษณะเป็นก้อน  ลิ่มเลือด  หรือใช้ผ้าอนามัยมากกว่าวันละ 5 ผืน
5.             มีเลือดออกหลังมีเพสสัมพันธ์
6.            มีเลือดออกหลังจากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนไปแล้ว
สาเหตุของอาการเลือดออกผิดปกติได้แก่
1.                การมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้คุมกำเนิดจนเกิดการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อน  เช่น  แท้งบุตร
2.            รับประทานยาบางชนิด  ที่มีส่วผสมของฮอร์โมนเพศหญิง  เช่น  กวาวเครือ  ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้
3.             ภาวะฮอร์โมนแปรปรวนในวัยที่เพิ่งเริ่มมีประจำเดือนหรือวัยใหล้หมดประจำเดือน  ซึ่งเป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติ
4.              ภาวะฮออร์โมนแปรปรวนอันเนื่องมาจากความเครียด เช่น  ใกล้สอบ  นอนดึก  ทะเลาะกับแฟน  ก็เป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติได้
5.             เกิดการอักเสบและติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์สตรีเช่น  ปากมดลูก  หรือเยื่อบุโพรงมดลูก  ก็สามารถทำให้เกิดแผลแล้วมีเลือดออกได้
6.            มะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี  เช่น  มะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลุก  ก้เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติที่พบได้บ่อยเช่นกัน
                 ประจำเดือนออกมาผิดปกติ  ส่วนใหญ่แล้วมักพบว่าเป็นอาการนำของมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธุ์  ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รีบรักษา  อาการอาจลุกลามรุงแรงได้ทั้งนี้  หากคุณเองเป็นอีกคนหนึ่งที่มทีปัญหาเลือดประจำเดือนออกมาผิกปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของความผิดปกติ
               โดยทั่วไปแพทย์จะซักถามประวัติจะซักถามประวัติสุขภาพทั่วไปของผุ้ป่วยในช่วงนี้  เช่น  ประวัติการกินยา  การคุมกำเนิดหลังจากนั้นก็จะทำการตรวจร่างกายไป  เช่น  วัดไข้  ความดันโลหิต  ตรวจภายในและตรวจหามะเร็งปากมดลุกไปพร้อมกัน  ในกรณีแพทย์ไม่สามารถหาข้อสรุปของอาการมีเลือดออกผิดปกติที่ปน่ชัดได้  อาจจะต้องทำการตรวจเลือดตรวจอัลตราชาวน์ด  หรือขูดมดลุกเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจวินิฉัยหาเซลล์มะเร็งต่อไป
                ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายในอย่างอวัยวะสืบพันธุ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน  และไม่ควรนิ่งนอนใจ  เนื่องจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจมีการดำเนินการโรคมาแล้วระยะหนึ่งแล้วจึงสงสัญาณเตือนภัยให้คุณทราบ  การตรวจภายในประจำทุกปีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันจากฌรคร้ายเนื่องจากสามารถตรวจหาสาเหตุของโรคและตรวจหาชนิดของโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการ  และสามารถรักษาให้หายได้
            เมื่อร่างกายส่งสัญาณเตือนร้องขอการดูแล  แล้วคุณจะนิ่งนอนใจได้เชียวหรือ
                                  ที่มา : นิตยสาร ใกล้หมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น