ประจำเดือนปกติมีเดือนละครั้ง
แต่หากเดือนไหนมามากกว่าหนึ่ง อีกทั้งยังมีเลือดออกมากผิดปกติหรือแม้แต่แค่กระปริกกระปรอยก็นั่งนอนใจไม่ได้
เพราะบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยร้ายอย่างมะเร็ง
ประจำเดือน หรือที่เรีกว่า “เมนส์” เป้นภาวะตามธรรมชาติที่เกิดจากการหลุดของผนังมดลุกที่ไม่ได้มีกี่ปฏิสนธิซึ่งร่างกายก็จะขับออกมาทุกเดือน
โดยทั่วไปเด็กหญิงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์จะเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกอายุประมาณ
12 – 13 ปี ปกติจะมาครั้งละไม่เกิน
7 วัน ประจำเดือนจะมาเป็นประจำทุกรอบประมาณ
21 – 35 วัน ก่อนจะเข้าสู้การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนประมาณอายุ
45 – 56 ปี
·
เลือดออกมากผิดปกติ
ตามปกติแล้วปรมาณของประจำเดือนที่ถุกขับออกมาในแตะเดือนนั้นจะไม่เท่ากัน
บางคนอาจจะมีประจำเดือนแค่ 3 วัน
วันแรกมาเล็กน้อย วันที่สองมามาก
และวันที่สามก็มีจางๆ แล้วหมดไป
หรือบางคนแจจะบอกว่าประจำเดือนมาที่ 5 – 6 วัน
กว่าที่จะจางและหมดไปก็ครบอาทิตย์นึงพอดี
โดยทั่วไปในแต่ละวันประจำเดือนที่ถูกขับออกมาจะมีปริมาณอยู่ที่ 20
-80 ซีซี หรือเฉลี่ยประมาณ 35 ซีซี แต่ที่ดูเหมือนว่ามามาก ก็เป็นเพราะว่าการขับออกมาของประจำเดือนจะเป้นลักษณะเหมือนน้ำหมด
ไม่ได้ไหลพรวดเดียวเหมือนที่เราเทน้ำ แต่ประจำเดือนจะถูกขับออกมาทีละนิดอย่างสม่ำเสมอจนว่าจะหมดนั้นเอง
แต่สำหรับบางรายที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ มีเลือดออกจากช่องคลอดกระปริดประปรอย หรือมากกว่าปกติก็สร้างกังวลใจให้คุรไม่น้อย
พาลคิดไปต่างๆ นานกว่าจะเป้นโรคร้ายแรง
อาการประจำเดือนมากมากปกติเกิดขึ้นไก้มาจากหลายสาเหตุ อาจเกิดได้จากผลข้างเคียงของยาที่รับประทาน การใช้ยาคุมกำเนิด
ความเครียด หรือเกิดจากภาวะติดเชื้อ
อาการเลือดออกผิดปกติที่เกิดขึ้นจากมะเร็ง
ถ้าผุ้หญิงมีอาการต่อไปนี้ นั้นคือสัญญาณอันตรายที่เป็นข้อบ่งชี้ว่าอาจเกิดจากมะเร็ง
1.
มีเลือดออกจากช่องคลอดกระปริกระปรอย ทุกวันหรือวันเว้นวัน
2.
มีรอบเดือนประจำเดือนเร็วกว่า
21 วัน คือ นับจากวันที่เป้นครั้งแรก ถ้าหากมีประจำเดือนอีกครั้ง แต่ไม่ครบรอบ 21
วัน นั้นก้แสดงว่าเกิดความผิดปกติกับอวัยวะภายใน
3.
มีเลือดออกนอกรอบประจำเดือน เช่น รอบนี้เริ่มมาวันที่
1 มกราคม 2551 มาทั้งหมด 4
วัน รอบถัดไปเริ่มมาวันที่ 30 มกราคม 2551 มาทั้งหมด 4 วัน แต่ในวันที่ 15 มกราคม
2551 มีเลือดออกมาอีก
4.
มีเลือดออกจากช่องท้องคลอดปริมาณมาก มีลักษณะเป็นก้อน ลิ่มเลือด หรือใช้ผ้าอนามัยมากกว่าวันละ 5
ผืน
5.
มีเลือดออกหลังมีเพสสัมพันธ์
6.
มีเลือดออกหลังจากเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนไปแล้ว
สาเหตุของอาการเลือดออกผิดปกติได้แก่
1.
การมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้คุมกำเนิดจนเกิดการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อน เช่น แท้งบุตร
2.
รับประทานยาบางชนิด ที่มีส่วผสมของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น กวาวเครือ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้
3.
ภาวะฮอร์โมนแปรปรวนในวัยที่เพิ่งเริ่มมีประจำเดือนหรือวัยใหล้หมดประจำเดือน ซึ่งเป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติ
4.
ภาวะฮออร์โมนแปรปรวนอันเนื่องมาจากความเครียด
เช่น ใกล้สอบ นอนดึก ทะเลาะกับแฟน ก็เป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติได้
5.
เกิดการอักเสบและติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์สตรีเช่น ปากมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูก
ก็สามารถทำให้เกิดแผลแล้วมีเลือดออกได้
6.
มะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี เช่น มะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลุก
ก้เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติที่พบได้บ่อยเช่นกัน
ประจำเดือนออกมาผิดปกติ ส่วนใหญ่แล้วมักพบว่าเป็นอาการนำของมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะสืบพันธุ์
ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รีบรักษา อาการอาจลุกลามรุงแรงได้ทั้งนี้
หากคุณเองเป็นอีกคนหนึ่งที่มทีปัญหาเลือดประจำเดือนออกมาผิกปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของความผิดปกติ
โดยทั่วไปแพทย์จะซักถามประวัติจะซักถามประวัติสุขภาพทั่วไปของผุ้ป่วยในช่วงนี้
เช่น ประวัติการกินยา การคุมกำเนิดหลังจากนั้นก็จะทำการตรวจร่างกายไป เช่น วัดไข้ ความดันโลหิต
ตรวจภายในและตรวจหามะเร็งปากมดลุกไปพร้อมกัน ในกรณีแพทย์ไม่สามารถหาข้อสรุปของอาการมีเลือดออกผิดปกติที่ปน่ชัดได้
อาจจะต้องทำการตรวจเลือดตรวจอัลตราชาวน์ด หรือขูดมดลุกเพื่อนำชิ้นเนื้อไปตรวจวินิฉัยหาเซลล์มะเร็งต่อไป
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายในอย่างอวัยวะสืบพันธุ์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
และไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจมีการดำเนินการโรคมาแล้วระยะหนึ่งแล้วจึงสงสัญาณเตือนภัยให้คุณทราบ
การตรวจภายในประจำทุกปีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันจากฌรคร้ายเนื่องจากสามารถตรวจหาสาเหตุของโรคและตรวจหาชนิดของโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการ
และสามารถรักษาให้หายได้
เมื่อร่างกายส่งสัญาณเตือนร้องขอการดูแล แล้วคุณจะนิ่งนอนใจได้เชียวหรือ
ที่มา : นิตยสาร ใกล้หมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น